อาการติดเชื้อhiv โรคเอชไอวี (HIV) เป็นโรค ที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะแพร่เชื้อ หากมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางช่องคลอด หรือผ่านทางทวารหนัก โดยไม่มีการป้องกันใด ๆ นอกจากนี้ เชื้อไวรัสชนิดนี้ จะสามารถแพร่เชื้อได้ หากมีเพศสัมพันธ์ทางปาก (Oral sex) ที่ไม่มีการป้องกัน
โดยเฉพาะถ้าหาก มีการหลั่งภายในปาก และหากภายในช่องปากนั้น ปรากฎมีบาดแผล อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมาอีก นอกจากนี้ เชื้อเอชไอวี ก็ยังสามารถติดต่อได้ ผ่านทางเลือด หากคุณใช้เข็มฉีดยาเสพสารเสพติด หรือหากใช้เข็มฉีดยาที่ต้องฉีดเข้าร่างกายร่วมกับผู้อื่น ที่อาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสชนิดนี้
อาการติดเชื้อhiv หากมีการติดเชื้อเอชไอวี ในระยะแรก ของการติดเชื้อนั้น จะไม่มีการแสดงอาการใด ๆ หรือบางคน อาจมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น เป็นไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต หรืออาจมีผื่นขึ้น ตามร่างกาย เป็นต้น อาการ จะปรากฏประมาณ 1-4 สัปดาห์ หลังจากติดเชื้อ โดยทั่วไป จะเรียกว่า อาการติดชื้อระยะแรก ซึ่งจะมีอาการคล้าย ๆ กับเป็นไข้หวัด และมักจะหายหลังจาก 1 สัปดาห์ แต่เชื้อก็จะยังค่อย ๆ ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายให้อ่อนแอ และเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ โดยเชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้นในช่อง 2-3 เดือนแรกหลังจากติดเชื้อ ในช่วงเวลานี้ จึงทำให้เชื้อไวรัส มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น เป็นธรรมดา ของร่างกายหากพบเชื้อโรค ไวรัส ในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน ก็จะเริ่มมีการตอบโต้ โดยสร้างแอนติบอดีขึ้น ซึ่งบางรายอาจจะ มีอาการหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งการติดเชื้อเอชไอวี จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ได้แก่
ระยะไม่แสดงอาการ การติดเชื้อในระยะแรก จะไม่มีการแสดงอาการใด ๆ ซึ่งจะดูเหมือนกับ คนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ โดยจากระยะแรก จะเปลี่ยนเข้าสู่ระยะต่อไป ในเวลาประมาณ 7-8 ปี แต่กับบางคน อาจจะไม่มีการแสดงอาการเลย นานถึง 10 ปี จึงทำให้ผู้ที่ติดเชื้อ สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โดยผู้ที่ติดเชื้อ ไม่ทราบว่าตนเองนั้นติดเชื้อ
ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ โดยในระยะนี้ จะสามารถตรวจพบ ผลเลือดเป็นบวก และจะเริ่มมีอาการผิดปกติ เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต มีเชื้อราเกิดขึ้น ภายในช่องปาก เป็นงูสวัด โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นมานานกว่า 1 เดือน โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งในระยะนี้ จะอยู่นานเป็นปี ๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่โรคเอดส์ ระยะเต็มขั้น
ระยะเอดส์เต็มขั้น ในระยะนี้ เชื้อเอชไอวีได้ฟักตัว เป็นโรคเอดส์แบบเต็มขั้นแล้ว โดยระบบภูมิคุ้มกัน ภายในร่างกาย ได้ถูกทำลายลงไปอย่างมาก จึงก่อให้เกิด การติดเชื้อฉวยโอกาส ซึ่งจะมีอยู่หลายชนิด เช่น อาการไข้เรื้อรัง ไอเป็นเลือด วัณโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปวดหัวอย่างรุนแรง อาเจียน เป็นต้น
จากข้างต้นที่กล่าวมา วิธีที่ดีที่สุด เมื่อคุณดันมีความคิด ความรู้สึกว่าตนเองอาจจะติดเชื้อเอชไอวี เพราะตนเองเคย หรือไปรับความเสี่ยง ต่อ การติดเชื้อเอชไอวี มา ก็ควรเข้ารับการตรวจเลือด กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหากใครที่ไม่กล้า ที่จะไปตรวจตามโรงพยาบาล ก็แนะนำ ให้หาซื้อ ชุดตรวจคัดกรองเบื้องต้น ด้วยตนเอง ที่มีความปลอดภัย แม่นยำ มาตรฐานเดียวกับโรงบาล มาตรวจ เพื่อคลายความกังวลใจ เพราะหากตรวจแล้ว พบเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้เข้ารับการรักษา อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ตรวจแล้ว ไม่พบเชื้อเอชไอวี หลังจากที่ได้รับ การตรวจครั้งแรกแล้ว ก็ควรตรวจซ้ำอีกที่ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้ได้ผลตรวจ ที่มีความชัดเจน มากขึ้น
การติดเชื้อเอชไอวีไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเสี่ยงเลย ดังนั้นหากสามารถป้องกันได้ ก็จงทำทุกครั้ง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ควรหมั่นดูแล สุขภาพร่างกาย หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพร่างกาย และชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกท่าน