ตุ่มเอดส์จะขึ้นตอนไหน คืออะไร เกิดขึ้นเมื่อไร พร้อมแยกความต่างจากตุ่ม PPE และคำแนะนำชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองที่มีมาตรฐาน

 

สถานการณ์เอชไอวีในประเทศไทยและทั่วโลก: ปี 2025

เมื่อเข้าสู่ปี 2025 โรคเอดส์และเชื้อเอชไอวียังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ทั่วโลกต้องเผชิญ แม้จะมีความก้าวหน้าในการรักษาและป้องกัน แต่การแพร่ระบาดในบางกลุ่มเป้าหมายยังคงเป็นความท้าทายหลัก ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกในปี 2024 มีประมาณ 38.8 ล้านคน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 1.2 ล้านคน กลุ่มเสี่ยงยังคงเป็นประชากรชายรักชาย (MSM) ผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด และผู้ที่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าการรณรงค์เรื่องการใช้ยาต้านไวรัส (ART) จะช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันการแพร่เชื้อ แต่การตรวจเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอในประชากรกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องได้รับการส่งเสริม

รู้จัก “ตุ่มเอดส์” ให้มากขึ้น

ตุ่มเอดส์ เป็นคำที่ใช้เรียกผื่นหรือแผลที่เกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อฉวยโอกาส (Opportunistic Infections) หรือตอบสนองต่อเชื้อไวรัสเอชไอวีโดยตรง

ลักษณะทั่วไปของตุ่มเอดส์:
  • มีลักษณะเป็นตุ่มหรือผื่นแดง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน
  • พบได้ที่ใบหน้า ลำตัว แขน ขา หรือในบางกรณีอาจเกิดในช่องปาก
  • อาจมีอาการคันร่วมด้วย หรือในบางครั้งไม่คันเลย
  • ในระยะลุกลาม ตุ่มอาจเปลี่ยนเป็นแผลพุพองหรือแผลเรื้อรัง
สัญญาณเตือนสำคัญ:
  • ตุ่มเอดส์มักไม่ปรากฏในระยะแรกของการติดเชื้อ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงมาก
  • หากพบตุ่มผิดปกติร่วมกับอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง น้ำหนักลด หรือเป็นไข้บ่อย ควรปรึกษาแพทย์ทันที

 

ตุ่มเอดส์จะขึ้นตอนไหน

ตุ่มเอดส์มักเกิดในระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกทำลายไปมาก หรือที่เรียกว่า ระยะเอดส์ (AIDS stage) ซึ่งเป็นช่วงที่จำนวนเซลล์ CD4 ลดต่ำกว่า 200 เซลล์/ลบ.มม. หรือเมื่อติดเชื้อฉวยโอกาสอย่างรุนแรง

ระยะเวลาที่ตุ่มเอดส์จะปรากฏ:
  • ตุ่มอาจไม่ปรากฏทันทีหลังการติดเชื้อเอชไอวี ผู้ติดเชื้อมักจะมีสุขภาพปกติในช่วง 2-10 ปีแรก ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพและการใช้ยาต้านไวรัส
  • เมื่อเข้าสู่ระยะเอดส์ (AIDS stage) ซึ่งเกิดหลังจากติดเชื้อมาหลายปีโดยไม่ได้รับการรักษา ตุ่มเอดส์จะเริ่มปรากฏพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ไข้เรื้อรังหรือการติดเชื้อรา
แหล่งอ้างอิง:

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่าตุ่มผิวหนังเป็นหนึ่งในอาการเด่นของผู้ป่วยเอดส์ในระยะลุกลาม และมักเป็นสัญญาณว่าภูมิคุ้มกันร่างกายลดต่ำอย่างมาก

 

ตุ่ม HIV กับ ตุ่ม PPE ต่างกันอย่างไร

ตุ่ม HIV (ตุ่มเอดส์) และตุ่ม PPE (Post-Exposure Prophylaxis Effect Rash) มีความแตกต่างกันทั้งในลักษณะและสาเหตุ:

ตุ่ม HIV:
  • เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อเชื้อเอชไอวีโดยตรง หรือการติดเชื้อฉวยโอกาส
  • มักพบในระยะที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ระยะเอดส์
  • ลักษณะเป็นตุ่มแดงหรือแผลที่ลุกลามและรักษาได้ยาก
  • พบได้ทั่วไปในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ตุ่ม PPE:
  • เกิดจากการแพ้ยาป้องกันหลังสัมผัสเชื้อ (Post-Exposure Prophylaxis)
  • มักปรากฏภายในไม่กี่วันถึง 1 สัปดาห์หลังเริ่มยา
  • ลักษณะเป็นผื่นแดงเล็ก ๆ ที่อาจคัน แต่ไม่ลุกลามรุนแรง
  • หายได้เองเมื่อหยุดใช้ยา
วิธีสังเกต:

ตุ่ม HIV มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น เชื้อรา เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ขณะที่ตุ่ม PPE เป็นผลข้างเคียงของยาและมักไม่รุนแรง หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ชัดเจน

 

แนะนำชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองที่มีมาตรฐานของ อินสติ

การตรวจหาเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ระยะแรกมีความสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถเริ่มการรักษาได้ทันที ชุดตรวจเอชไอวี อินสติ (INSTI) เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการตรวจด้วยตนเองอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว

คุณสมบัติเด่นของอินสติ:
  • เร็ว: ทราบผลภายใน 1 นาที
  • แม่นยำ: ตรวจได้ตั้งแต่ 21 วันหลังสัมผัสเชื้อ
  • ใช้งานง่าย: ออกแบบให้เหมาะกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
  • ได้รับการรับรอง: มาตรฐาน WHO และองค์การอาหารและยาของหลายประเทศ
ชุดตรวจอินสติช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเข้ารับการตรวจในสถานพยาบาล และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

รณรงค์ให้คนตระหนักถึงการตรวจเอดส์ด้วยตัวเอง

การตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองเป็นก้าวสำคัญในการลดการแพร่กระจายของเชื้อและเพิ่มโอกาสในการรักษา การรณรงค์ควรมุ่งเน้นที่การให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจ การเลือกใช้ชุดตรวจที่ได้มาตรฐาน และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หากพบผลบวก

การตรวจด้วยตัวเองยังช่วยลดอุปสรรค เช่น ความอายหรือการเข้าถึงบริการในพื้นที่ชนบท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของประชากรกลุ่มเสี่ยง

 

“ตุ่มเอดส์” มักเกิดขึ้นในระยะที่ภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อลดลงจนถึงระดับวิกฤต โดยเฉลี่ยจะปรากฏหลังการติดเชื้อหลายปี หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง การตรวจหาเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ระยะแรกด้วยชุดตรวจที่ได้มาตรฐาน เช่น อินสติ เป็นวิธีที่ช่วยให้การดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดตุ่มเอดส์และโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ

การสร้างความตระหนักถึงการตรวจเอชไอวีและการเลือกชุดตรวจที่เชื่อถือได้จะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่กระจายของเชื้อในอนาคต

 


ชุดตรวจ hiv อินสติ

ชุดตรวจHIV ด้วยตนเอง อินสติ มีจำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วไป สามารถเข้าไปค้นหาร้านขายยาที่มีอินสติ ได้ที่ร้านจำหน่าย INSTI

หรือสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Grab , LINE MAN , Foodpanda , Lalamove เข้าไปที่แอพแล้วเลือกร้าน Boots เสิร์จ คำว่าชุดตรวจเอชไอวีหรือคำว่า อินสติ หรือ Insti

ผ่านอีกหนึ่งช่องทางคือสั่งซื้อผ่านทางผู้นำเข้าโดยตรง ได้ที่

Line OA: @insti

Facebook: อินสติ insti ชุดตรวจเอชไอวี

Shopee: INSTi_THAILANDHIVTEST

Lazada: INSTi_THAILANDHIVTEST

Tiktok:  Insti.thailand-v2

Line Shopping: insti

Website: thailandhivtest.com