น้ำยา Gen4 มี ที่ไหน บ้าง การตรวจเอชไอวี ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่ายังคงเน้น ไปที่การตรวจหาภูมิคุ้มกัน ของเชื้อเอชไอวี เป็นส่วนใหญ่ โดยผู้ติดเชื้อ จะต้องมีระยะเวลา หลังเสี่ยงมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 21 – 30 วัน และควรตรวจซ้ำอีกครั้ง ที่หลัง 60 วัน
แต่การพัฒนา วิธีการตรวจ ก็ยังคงถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ในอดีต ที่เรามักตรวจหาแอนติเจน ของเชื้อเอชไอวี แต่การตรวจนั้น สามารถถูกรบกวนได้ง่าย ทำให้ผล อาจผิดพลาดได้ง่ายๆ เช่นกัน การตรวจเอชไอวี พัฒนามาตรวจจนในที่สุด สามารถตรวจได้ไวขึ้น คือ การตรวจแบบ NAT
– การตรวจ NAT สามารถตรวจได้ไวขึ้น โดยผู้ตรวจ มีความเสี่ยงมาเพียง 5 วัน ก็สามารถตรวจได้แล้ว โดยผู้ที่สนใจ ตรวจเอชไอวี แบบ NAT สามารถไปตรวจได้ที่ สภากาชาดไทย หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่
– การตรวจเอชไอวี แบบ 4th generation หรือน้ำยา Gen4 สามารถตรวจได้ไวที่สุด เมื่อผู้ป่วย มีความเสี่ยงมาไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่แนะนำว่า ตรวจที่ 28 วัน จะดีกว่า หรืออาจตรวจที่หลังหนึ่งเดือน
กลไกการตรวจ น้ำยา Gen4 สามารถตรวจได้ทั้ง 2 แบบ ในการตรวจชุดเดียว คือ สามารถตรวจได้ทั้งแบบหาแอนติเจนของเชื้อเอชไอวี และแอนติบอดีที่สร้างขึ้นเพื่อต่อต้านหรือกำจัดเชื้อเอชไอวี
โดยด้านหนึ่ง ของการตรวจหา แอนติบอดี อาจจะต้องรอ ให้ร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันขึ้น ซึ่งเป็นความหมายของ คำว่า window period ซึ่งจากผลการศึกษา อย่างต่ำ คือ 21 วัน และอีกวิธีที่ตรวจหาโปรตีน ของตัวเชื้อ (p24) หรือตรวจหาแอนติเจน โดยระยะเวลา อย่างต่ำที่สามารถ ตรวจได้ คือ 14 วัน
ในการตรวจเพื่อปิดเคส อย่างไรแล้ว ควรขึ้นอยู่กับวินิจฉัย ของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ ด้วยวิธีใด แต่โดยทั่วไปแล้ว แพทย์อาจจติดตาม ผลตรวจหลัง จากการตรวจครั้งแรก โดยการตรวจที่หลัง 60 วัน อีกครั้งหนึ่ง
การตรวจด้วย น้ำยา Gen4 มี ที่ไหน บ้าง
การตรวจด้วยน้ำยา Gen4 เป็นเทคโนโลยี การตรวจที่ไทย พึ่งนำเข้ามาไม่นาน โดยจะตรวจได้ ตามคลินิกนิรนาม และสภากาชาดไทย ส่วนตามโรงพยาบาล ทั้งรัฐ และเอกชนนั้น รวมถึงตามคลินิกอื่นๆ จำเป็นที่จะต้องโทร สอบถามล่วงหน้า เพราะการตรวจด้วยวิธีใด ขึ้นอยู่กับ การบริหารจัดการ ของสถานพยาบาลนั้นๆ
ค่าใช้จ่ายในการตรวจ Gen4 นั้น จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าการตรวจปกติเล็กน้อย ดังนั้น การโทรสอบถามล่วงหน้า นอกจากจะได้คำตอบว่ามีการตรวจด้วย Gen4 หรือไม่แล้ว ยังสามารถสอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น ขั้นตอนการตรวจ และค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้กับการตรวจ
แต่อย่างไรก็ตามมาตรฐานน้ำยาที่ใช้ตรวจจะมีมาตรฐานเดียวกันอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการกำหนดมาตรฐานของน้ำยาที่ใช้ตรวจ หรือวิธีการตรวจไว้แล้ว อย.จึงจะอนุญาตให้จำหน่าย และนำมาใช้ตรวจได้ อีกทางเลือกหนึ่งของการตรวจเอชไอวี เพราะอยากรู้สถานะเลือดตัวเองว่ามีโอกาสเสี่ยงจริงๆ หรือไม่ ก่อนจะเดินทางไปตรวจที่สถานพยาบาล คือ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ผลของการตรวจจะบ่งบอกเพียงแค่ว่า คุณมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อหรือไม่ หากผลเป็นบวก เท่ากับมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี
คนไทยสามารถตรวจเอชไอวีได้ฟรีแล้ว ปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลรัฐ เพียงมีบัตรประชาชน และใจที่พร้อมจะตรวจ การตรวจเอชไอวีจะต้องมีเอกสารการลงนามรับรองว่าอนุญาตให้ตรวจได้ เพื่อป้องกันการบังคับตรวจในการสอบเข้ามหาลัย หรือการรับสมัครทำงาน ดังนั้น การบีบบังคับให้เราตรวจเอชไอวีโดยที่เราไม่ยินยอมจึงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย หากพบสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ การตรวจเอชไอวีฟรีอาจจะไม่ใช่การตรวจด้วยน้ำยา gen 4