ตรวจเอดส์ 14 วัน ผล โรคเอดส์ (AIDS) เป็นภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งโรคเอดส์เป็นโรคที่เกิดขึ้นหลังจากที่ร่างกายของเราได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว ประมาณ 8-10 ปี

 

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโรคเอดส์เกิดจากการ ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งจะใช้เวลานานหลายปีจนพัฒนาเป็นเอดส์ ส่งผลทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้นมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ลดลง

จนทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ไม่เพียงพอต่อการต้านทานเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้น จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น วัณโรค เชื้อรา หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีวิธีการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวี

และเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีพัฒนาไปสู่ระยะโรคเอดส์

 

การติดเชื้อเอชไอวี จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน คือ

 

  • ระยะเฉียบพลัน ในระยะนี้ คือ ระยะที่ร่างกายของเราได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยเชื้อไวรัสเอชไอวีจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลให้เซลล์ CD4

ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน และในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีอาการคล้าย ๆ เป็นไข้หวัดใหญ่ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ มีผื่น หรือต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น

ระยะนี้เป็นระยะเฉียบพลัน 90 วัน ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

 

  • ระยะสงบทางคลินิก ในระยะนี้เชื้อจะยังไม่แสดงอาการ หรือ อาจมีอาการเดียวกัน กับระยะเฉียบพลัน แต่ก็ถือว่ามีโอกาสน้อยมาก ๆ โดยระยะนี้เชื้อเอชไอวีจะค่อย ๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้น

และทำลายภูมิคุ้มกัน จนส่งผลให้ภูมิคุ้มกันค่อย ๆ ลดลง และเชื้ออาจอยู่ในร่างกายนานถึง 10 ปี

 

  • ระยะเอดส์ ในระยะนี้เป็นระยะที่ภูมิคุ้มกันได้ถูกทำลายลงอย่างหนัก ทำให้ปริมาณของเซลล์ CD4 ลดลงกว่า 200 จากปกติจะอยู่ที่ 500-1,600 จึงทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อชนิดอื่นได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยในระยะเอดส์ จะมีอาการปอดอักเสบ น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว เหนื่อยง่าย ท้องเสียเรื้อรัง เหงื่อออกตอนกลางคืน มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง มีฝ้าในช่องปาก หรือรักแร้ขาหนีบบวมโต เป็นต้น

หากไม่ได้รับการรักษาและรักยาต้านอย่างถูกต้องอาจส่งผลให้เสียชีวิตลงได้

 

ตรวจเอดส์ 14 วัน ผล ปัจจุบันการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ด้วย ชุดตรวจ HIV จะเป็นการตรวจหาแอนติเจนของเชื้อ (p24 Antigen) โดยจะเริ่มตรวจเจอหลังได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 10-14 วัน

และจะตรวจเจอได้มากกว่า 95% ที่ประมาณ 1 เดือน ดังนั้นแล้ว หากเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ 14 วัน หลังได้รับความเสี่ยงมา แล้วผลเป็นลบ ก็สามารถเชื่อถือได้

และเพื่อความมั่นใจทางที่ดีควรเข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้งที่ 1 เดือน เพื่อยืนยันผลที่แน่ชัด และแนะนำให้ตรวจหา Anti-HIV ไปด้วยเพื่อความแม่นยำมากขึ้น

 

นอกจากนี้ หากใครที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ปัจจุบันก็ได้มีชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง โดยชุดตรวจถูกพัฒนา ขึ้นมาเพื่อทำการตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีเบื้องต้น

ซึ่งมี การทดสอบ และปรับปรุง จนได้มา เป็นเครื่องมือ ที่มี ความแม่นยำ ใช้งานง่าย สะดวก มีความ ปลอดภัย และสามารถรู้ ผล ได้ใน 15-20 นาที เท่านั้น

ดังนั้น หากใครที่ไปได้รับความเสี่ยงมาก ควรทำการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง เพราะหากรู้ผลเร็วก็จะได้เข้ารับการรักษาได้ทันเวลา